NAMI “Burn-E” (Viper)

สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าที่ “ไร้จุดอ่อน” คันแรกของโลก
ราคา: 119,900 บาท

Written by Bank (eWheels Thailand)

NAMI Electric – (New Age Mobility Innovation)
NAMI เป็นแบรนด์สกู๊ตเตอร์ระดับ High-end ที่พิ่งกำเนิดขึ้นมาในปี2021 จากวิศวกรสัญชาติจีน “Michael Sha” ผูหลงไหลและมากด้วยประสบการณ์ด้านการออกแบบสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้ามาอย่่างโชคโชน

โปรเจคสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า NAMI ได้กำเนิดขึ้นโดยมีพื้นฐานการออกแบบ “Robust, Safe and Fascinating ” “ทนทาน ปลอดภัย และน่าหลงไหล”

ทีมออกแบบได้รวบรวมจุดเด่นจุดด้อยและปัญหาของสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าในบัจุบันจากตัวแทนจำหน่ายและผู้ขับขี่จากทั่วโลก โดยมีเป้าหมายที่จะผลิตสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าที่ “ไร้จุดอ่อน” และต้องใช้งานได้ทุกสภาพถนนและอากาศ เป็นคันแรกของโลก สกู๊ตเตอร์รุ่น “Burn-E” (ชื่อเดิม “Viper”) จึงถือกำเนิดขึ้นภายใต้แบรนด์ “NAMI Electric”

Change this Subheading

Image Box Title

Change this description

“Nami Burn-e (Viper)” เป็นสกู๊ตเตอร์ขนาดใหญ่ ที่เลือกใช้วัสดุที่ดีที่สุด เทคโนโลยีที่ใหม่ที่สุดในการผลิตชิ้นส่วนต่างๆ โดยสามารถทำความเร็วได้ถึง 100km/hr (GPS Speed), วิ่งได้ไกลสูงสุดถึง 150km/ชาร์จ, โดยมีน้ำหนักเพียงน้ำหนัก 47km

แบตเตอรี่ที่ใช้มีขนาด 72V 35Ah (100A) (Panasonic 18650cells) ซึ่งเป็นแบตเตอรี่ที่มีคุณภาพสูงที่สุดและแพงที่สุดในตลาด เพื่อให้ได้ความจุของแบตเตอรี่ที่เยอะที่สุด น้ำหนักเบาที่สุดและยังสามารถปล่อยกระแสได้สูงที่สุด

และเป็นครั้งแรกที่ใช้เทคนิคการเชื่อมต่อCellsด้วย Copper Nickel (ทองแดง) แทนการใช้ Steel Nickel เพื่อให้กระแสไฟฟ้าไหลได้อย่างราบลื่นขึ้น (Viper ทำระยะได้ถึง 100-150km/ชาร์จ ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขการขับขี่และสภาพถนน)

ด้วยมอเตอร์ขนาด 1500W/ล้อ (ให้กำลังสูงสุดรวม 8,400W) จึงทำให้เกิดแรงทอร์คมหาศาล จากการทดสอบด้วย GPS “Burn-E” สามารถทำความเร็วได้ถึง 100km/h (คนขับน้ำหนัก80kg)

ทางวิศวกรยังได้เลือกใช้ เทคโนโลยีใหม่ล่าสุดอย่างมอเตอร์และกล่องคอนโทรเลอร์แบบ “SINE WAVE” แทนแบบ SQUARE WAVE (แบบดั้งเดิม) ซึ่งมีราคาสูงกว่า2เท่าตัว (ระบบมอเตอร์ SINE WAVE จะทำให้มอเตอร์หมุนได้สมูทขึ้น แรงเสียดทานน้อยลง เงียบลง ความร้อนสะสมน้อยลง และสามารถส่งกำลังได้อย่างต่อเนื่องมากขึ้น) ทำให้เร่งได้อย่างนุ่มนวล ประหยัดพลังงาน และไหลลื่นมากยิ่งขึ้น

NAMI Burn-E สามารถหยุดนิ่งได้อย่างง่ายดายด้วยปั้มเบรกแบบน้ำมันเต็มระบบจาก NUTT และดิสเบรกขนาด 160mm และ E-brake ที่ปรับตั้งได้ 6 ระดับ

ทางทีมออกแบบยังติดตั้งหน้าจอสีแบบกันน้ำขนาดใหญ่ที่แสดงผลได้อย่างครบครันเช่น Speed, Trip, Battery, สถานะการทำงานของไฟหน้า และไฟเลี้ยว แถมยังสามารถใช้ปรับตั้งค่ามอเตอร์และเบรกที่ล้อหน้าและล้อหลังได้แยกอิสระจากกัน ทำให้สามารถออกตัวได้นุ่มนวลและคุมคันเร่งช่วงเร่งแซงได้อย่างง่ายดาย (สกู๊ตเตอร์คันนี้ยังมีโหมดการขับขี่ให้เลือกมากถึง 5 โหมด ซึ่งผู้ขับขี่สามารถเซ็ตอัพในแต่ละโหมดได้อย่างอิสระ (แยกล้อหน้าล้อหลัง))

Burn-E ยังมาพร้อมไฟหน้าที่ให้เความส่วางถึง 2,000ลูเมน (มี Cut-off ในตัวทำให้ไม่แยงตาเพื่อนร่วมทาง) ไฟเบรก ไฟเลี้ยวแบบไดนามิก แตรไฟฟ้า และคันเร่ง(แบบใช้นิ้วโป้ง) ถูกควบคุมผ่าน Multi-switchที่ติดตั้งอยู๋บริเวณแฮนด์ด้านขวา

ในส่วนของช่วงล่าง ทาง Nami electric ได้เลือกใช้โช้กแบบน้ำมันที่สามารถปรับความแข็งของสปริงและความหนืดได้อย่างอิสระ จึงทำให้มีความนุ่มนวลและยึดเกาะถนนได้ดีในเวลาเดียวกัน

ปัญหาหนึ่งของสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าคือเรื่องระบบล็อคคอที่มักจะหลวมคลอนง่ายและมีเสียงรบกวนให้รำคราญใจ

จากการทดลองระบบล็อคมากกว่า10แบบ ในที่สุดทางNami เลือกที่จะออกแบบระบบล็อคคอแบบใหม่เองทั้งหมด “Thread lock taper folding system” โดยใช้วัสดุสเตนเลสเกรด304 ซึ่งมีความแข็งแรงมากกว่าอลูมิเนียมเหมือนที่นิยมใช้ทั่วไป ตัวชุดพับจะเป็นทรงกรวย หมุนล็อคด้วยเกลียวเพิ่อลดช่องว่างระหว่างชิ้นส่วนทั้งสองให้น้อยที่สุด และเสริมด้วย Quicklock อีกชั้นหนึ่ง

ในส่วนของคอลั่ม(เสาคอ) ได้ใช้วัสดุที่ทำจากคาร์บอนเกรดสูงหนาถึง4mm เบา แข็งแรง และยืดหยุ่นได้ดี ซึ่งจากผลการทดสอบ (ด้วยแรงกด 400kg) วัสดุ Carbon มีโอกาสหักน้อยกว่าอลูมิเนียมอย่างชัดเจน

กบังโคลนยังถูกออบแบบให้ “ไม่มีวันแตก ขาด หรือเสียรูป” โดยใช้วัสดุ (Polypropylene) ขายึดบังโคลนยังเป็นสเตนเลสที่แข็งแรงทนทาน

ยางที่ใช้เป็นแบบ Tubeless (ไร้ยางใน) ขนาด 11นิ้ว หน้ากว้าง 90mm (ขนาดเดียวกับสกูตเตอร์รุ่นใหญ่เช่น Thunder, Storm, Wolf warrier, 11X) ซึ่งสามารถหายางคุณภาพสูงมาใส่ภายหลังได้ไม่ยาก

เรื่องมาตราฐานการกันน้ำ Nami Burn-E ได้ผ่านการทดสอบการขับขี่และจอดในสภาวะฝนตกหนักอย่างไร้ปัญหา (water and dust resistance rated: IP55 ) ทางวิศวกรยังได้ออกแบบกล่องกพลาสติกABS และฝาปิดที่ทำจากแผ่นEVAครอบลงบนกล่องอีกชั้นหนึ่งเพื่อบรรจุแบตเตอรี่ กล่องควบคุม และชุดสายไฟ ซึ่งสามารถปกป้องน้ำและความชื้น และแรงสั่นสะเทือนที่เกิดจากการขับขี่ได้เป็นอย่างดี

และขณะนี้ Michael Sha ผู้ออกแบบยังได้สร้างกันสะบัดแบบไร้แกน (ซึ่งมีความทนทานกว่าแบบโช้ก) ที่จะมาติดตั้งกับ Burn-e อีกด้วย (พร้อมจำหน่าย เมษา2021นี้)

*** Nami Burn-E พร้อมจำหน่ายแล้วในราคา 119,900 บาท เป็นที่แรกของโลก ซึง eWheels Thailand จะเป็นตัวแทนจำหน่ายแต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย พร้อมรับประกันคุณภาพ 1 ปีเต็ม


***สนใจทดลองขับหรือสั่งซื้อได้ที่ eWheels ทุกสาขา https://minimotorsthailand.com/ewheels-branch/